พล.ร.ท.วิสาร บุญภิรมย์ จก.พธ.ทร. ร่วมงานแถลงการณ์ผลการปฏิบัติงานตามนโยบายเร่งด่วนของ ผบ.ทร. ประจำปี งป.๖๖ วงรอบ ๖ เดือน ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุม ทร. เมื่อวันที่ ๒๗ เม.ย. ๖๖

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวแถลงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายเร่งด่วนของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ วงรอบ ๖ เดือน โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ นายทหารชั้นยศนายพลเรือ และ นายทหารสัญญาบัตรระดับผู้อำนวยการกองขึ้นไป ร่วมรับฟังการแถลงผล นอกจากนั้น ยังได้มีการถ่ายทอดการแถลงผลไปยังหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทยและนายทหารประสานงานในต่างประเทศ ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๖

โดยวัตถุประสงค์ของการแถลงผลการปฏิบัติงานฯ ในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือมีเจตนารมณ์ให้ผู้บริหารของกองทัพเรือในแต่ละลำดับชั้น ได้รับทราบความก้าวหน้าการปฏิบัติงานที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา ๖ เดือน ว่าสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด สำหรับนโยบายที่ยังไม่มีความก้าวหน้ามากนักหรือเบี่ยงเบนไปจากทิศทางของนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ จะได้มีข้อแนะนำและสั่งการเพิ่มเติมต่อไป

อนึ่ง พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบนโยบายเร่งด่วน จำนวน ๓ ด้าน เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ ภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ โดยมีความมุ่งหมายที่จะเสริมสร้างรากฐานของกองทัพเรือให้มั่นคง รวมทั้งยกระดับกองทัพให้ก้าวไปสู่ความเป็นสากล ทันสมัย มีคุณธรรม มีความยั่งยืนบนพื้นฐานการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ ประกอบไปด้วย

นโยบายด้านที่ ๑ การเสริมสร้างรากฐานของการปฏิบัติ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในเรื่อง การพิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มกำลังความสามารถ การทบทวนยุทธศาสตร์และกำหนดโครงสร้างกำลังรบของกองทัพเรือ การพัฒนาศักยภาพกองทัพเรือทางฝั่งทะเลอันดามัน ให้สามารถรองรับโครงการสะพานเศรษฐกิจ (Land bridge) ของรัฐบาล การพัฒนาขีดความสามารถสงครามที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Warfare: NCW) การบริหารจัดการอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) เป็นต้น

นโยบายด้านที่ ๒ การพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่การเป็นกองทัพเรือที่มีบทบาทนำในภูมิภาค มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดนโยบายเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล การแนะนำตัวและแลกเปลี่ยนการเยือนกับผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือมิตรประเทศทั้ง Online และ On Site การเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมตามกรอบความร่วมมือ IONS และ WPNS และกิจกรรมของกองทัพเรือที่ปฏิบัติงานภายใต้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ที่ได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล เป็นต้น

นโยบายด้านที่ ๓ การเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในระบบการบริหารและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือ มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ อาทิ การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือให้เป็นไปตามแผน การส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสของกองทัพเรือตามมาตรฐานการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (Integrity and Transparency Assessment: ITA) การกำหนดแนวทางคัดเลือกผู้บริหารของกองทัพเรือในอนาคต และการแก้ไขปัญหาความแออัดของกำลังพลในบางชั้นยศ การจัดทำโครงการฉลามขาว เพื่อคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือที่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นพิเศษ ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับกำลังพลในพื้นที่ต่าง ๆ การแก้ไขปัญหาหนี้สินของกำลังพลกองทัพเรือร่วมกับสถาบันการเงินภายนอก การดำเนินโครงการบ้าน วัด โรงเรียน และโครงการ คลองสวยน้ำใส ร่วมใจสามัคคี และการสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ที่จะถึงเป็นต้น

ในช่วงท้ายของการแถลงผลการปฎิบัติงานฯ ผู้บัญชาการทหารเรือได้กล่าวสรุปว่า ผลการปฏิบัติงานตามนโยบายเร่งด่วนฯ วงรอบ ๖ เดือน นั้น อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังอยู่บนเส้นทางของนโยบายเร่งด่วนที่ถูกได้กำหนดไว้ แม้กระนั้นก็ตาม มีบางนโยบายที่ต้องปรับแต่งกระบวนการทำงานให้เป็นไปตามที่ให้คำแนะนำไว้ จึงขอให้กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับกองทัพเรือ และการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ – The Trusted Navy อย่างแท้จริง